งานนี้ใหญ่ชนโหญ่ แม่ชนแม่ของจริงอย่างแน่นอนกับภาพยนตร์แอ็คชั่นล่าข้ามศตวรรษของ Netflix อย่าง The Old Guard ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะทำยอดคนดูถึง 186 ล้านชั่วโมง จากการลงสตรีมใน Netflix เป็นเวลา 28 วัน และดูเหมือนเรื่องราวจะดำเนินต่อไป เพราะถูกทิ้งเชื้อไว้ในตอนจบของภาคแรก

Charlize Theron ในวัย 46 ปี ยังดูปราดเปรียว งดงาม และทรงพลัง เธอคือหนึ่งในกิ้งก่าแห่งฮอลลีวู้ดที่เปลี่ยนสีเปลี่ยนบทบาทได้ดั่งใจนึกผู้สร้าง จะให้สวย ให้โทรม ให้ดราม่า หรือ ให้บู๊ เธอก็ทำได้แบบไร้ที่ติ โดยเฉพาะในสายแอ็คชั่น เธอผ่านงานแนวๆนี้มาแล้วใน Æon Flux , Mad Max: Fury Road , Atomic Blonde , หรือแม้กระทั่งหนังตระกูล Fast จนเราอาจลืมไปว่าเธอคือนักแสดงรางวัล Oscar จากหนัง Monster

นักแสดงประเภทคล้ายๆกันนี้นึกไปถึง Uma Thurman อีกคน เธอคือไอคอนสายบู๊ในยุคหนึ่ง ซึ่งผลงานระห่ำๆของ Quentin Tarantino อย่าง Kill Bill เป็นที่ประจักษ์กันดีว่าเธอมันแน่ เธอมันแน่มาตลอดและใน The Old Guard ภาค 2 พวกเธอจะได้โคจรมาเจอกัน พร้อมด้วยดาวบู๊หน้าเอเชียรุ่นใหม่อย่าง Henry Golding จาก Snake Eyes ถือเป็นการเสริมทัพความบู๊ระห่ำที่น่าสนใจทีเดียว

The Old Guard ภาค 2 จะไม่ได้ผู้กำกับหญิงคนเดิมอย่าง Gina Prince-Bythewood กลับมา แต่เธอจะยังคงเป็นโปรดิวเซอร์อยู่ แต่ได้ส่งไม้ต่อให้ผู้กำกับหญิงอีกคนอย่าง Victoria Mahoney ซึ่งเธอเคยเป็นผู้กำกับกองสองให้ Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker และมีผลงานกำกับซีรีส์มาแล้วหลายเรื่อง เช่น Grey’s Anatomy ที่เธอได้กำกับบางตอน

The Old Guard สร้างจากหนังสือการ์ตูนของสองผู้สร้างสรรค์อย่าง Greg Rucka และ Leandro Fernández ที่พูดถึงมนุษย์ที่มีอายุยืนยาวมาหลายศตวรรษ และต้องหลบซ่อนตัวเองจากโลกมาทุกยุคทุกสมัย พวกเขามีบทบาทในการต่อสู้ หรือ สงครามสำคัญๆหลายครั้ง จนกระทั่งเกิดบางอย่างที่ทำให้พวกเขาต้องกลับมาลงสนามอีกครั้ง